สรุปเรื่อง จุดประกายนักวิทยาศาสตร์น้อย
โดย อาจารย์เฉลิมชัย วัดเข้าหลาม จากโทรทัศน์ครู
ชื่อหน่วยการเรียนรู้ "เสียงมาจากไหน"
ครูเฉลิมชัยเห็นว่า ช่วงปฐมวัยเป็นช่วงที่สนใจสิ่งต่างๆ อยากรู้อยากลองอยากเห็น มีความคิดสร้างสรรค์ที่บรรเจิดมาก หลักการสอนของครูเฉลิมคือ สอนให้สนุกไม่ไกลตัวเด็กเน้นการทดลองให้เด็กได้ลงมือกระทำเพราะเด็กจะจดจำไม่รู้ลืม
ครูให้เด็กเรียนรู้เรื่องเสียงผ่านกิจกรรม โดยให้เด็กออกมาเสดงความสามารถพิเศษทาด้านดนตรีจากนั้นก็โชว์สื่อที่มีเสียงให้เด็กได้ตื่นตาตื่นใจ และสนใจในกิจกรรม คือ
ไก่กระต๊าก ครูทำเสียงไก่อยู่ใต้โต๊ะเพื่อให้เด็กตื่นเต้นและค่อยๆให้เด็กเห็น และใช้คำถาม ถามเด็กว่า
- เสียงมาจากเชือกหรือแก้ว ครูบอกเด็กว่า แก้วสั่น อากาศที่อยู่ในแก้วสั่นสะเทือนแล้วเกิดเสียงออกมา เหมือนกับลำโพง
จากนั้นก็นำสื่อ ไก่กระต๊ากให้เด็กได้ลองเล่นทีละคน จนครบทุกคน ขณะเด็กเล่นครูก็ถามเด็กว่าเหมือนเสียงอะไร
กิจกรรมอ่างดำเกิดเสียงก้อง เป็นการนำถุงดำมามัดใส่ในอ่างขนาดเล็กแล้วมัดให้เน้น จากนั้นนำเกลือมาโรยไว้ที่ปากอ่าน แล้วให้เด็กออกมาพูดใส่บริเวณปากอ่าง ขณะที่พูดเสียงดังเกลือก็จะเคลื่อนที่ พอหยุดพูดก็ก็จะมากองอยู่ที่กลางอ่าง แสดงว่าเสียงเกิดขึ้นจากการสั่นสะเทือนของวัตถุ หรือ เสียงเกิดจากการสั่นของแหล่งกำเนิดเสียงและเคลื่อนที่จากแหล่งกำเนิดเสียงทุกทิศทุกทางโดยอาศัยตัวกลาง
กิจกรรมกระป๋องร้องได้ โดยเจาะรูตรงกลางกระป๋อง ปากด้านหนึ่งของกระป๋องใส่ด้วยดินน้ำมัน อีกด้านหนึ่งตึงด้วยลูกโป่ง แล้วเป่าลมเข้าไปจะทำให้เกิดเสียง และขนาดของกระป๋องที่ต่างกันก็จะเกิดเสียงที่แตกต่างกัน
การเดินทางของเสียงในกระป๋องร้องได้
ครูเฉลิมบอกว่าการเป้นครูวิทยาศาสตร์นั้นต้องเป็นคนที่ทันยุค ทันสมัยทันเหตุการณ์ รู้ทันเรื่องของโลก นำความรู่ใหม่ๆมาสอนศิษย์อยู่เสมอ ครูเป๋็นผู้ให้ความรู้ ให้เหตุและผล และเป็นคนเปิดโอกาสและให้โอกาสกับเด็กทุกคนได้แสดงความสามารถทางวิทยาศาสตร์และซักวันเด็กที่เราสอนจะเติบโตมาเป็นคนที่มีเหตุมีผลและเป็นกำลังที่ดีของประเทศชาติต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น